1994-1995
จุดเริ่มต้นของ BYD
บริษัท BYD ก่อตั้งบริษัทด้วยเงินทุนเพียง $0.3 ล้านและพนักงาน 20 คน …
ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชื่อของ BYD ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในฐานะหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และโซลูชันพลังงานทดแทน บริษัทสัญชาติจีนแห่งนี้ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์โลกไปสู่อนาคตที่ปลอดการปล่อยมลพิษ
ในบทความนี้เรา Denza BD Ultimate จะพาคุณไปรู้จักกับ BYD ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ความสำเร็จระดับสากล ผลิตภัณฑ์หลักที่ครองใจผู้บริโภค ไปจนถึงบทบาทของ BYD ในตลาดโลกและในประเทศไทย
BYD ย่อมาจาก Build Your Dreams บริษัทสัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1995 โดยเริ่มต้นจากการผลิตแบตเตอรี่ ก่อนจะขยายสู่ธุรกิจด้านยานยนต์ พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีขั้นสูง ปัจจุบัน BYD ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำระดับโลกในด้านรถยนต์ไฟฟ้า ระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า และโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตยานพาหนะเพื่อผู้บริโภคทั่วไป ไปจนถึงระบบขนส่งมวลชนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
BYD มีเป้าหมายสำคัญในการสร้างโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาพลังงานทดแทน รถยนต์ที่ปราศจากมลพิษ และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคต
BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมทั้ง BEV (Battery Electric Vehicle) และ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) โดยมีไลน์อัปหลากหลายตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล, MPV, SUV ไปจนถึงรถบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้า ปัจจุบัน BYD ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และยังคงขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง
BYD เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถบัสไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก โดยรถโดยสารของ BYD ถูกนำไปใช้งานในเมืองสำคัญทั่วโลก เช่น ลอนดอน ลอสแอนเจลิส โตเกียว ปักกิ่ง และซานติอาโก ครอบคลุมทั้งระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ รถแท็กซี่ไฟฟ้า ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ
จากจุดเริ่มต้นด้วยการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ปัจจุบัน BYD เป็นผู้นำด้านการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ Blade Battery ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยสูง ทนความร้อน ลดความเสี่ยงการลุกไหม้ และมีอายุการใช้งานยาวนาน เทคโนโลยีนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ BYD ได้เปรียบในตลาด EV
BYD ลงทุนในโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System – ESS) สำหรับทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนไปจนถึงการจัดเก็บและนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
BYD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลก แซงหน้า Tesla ในแง่ยอดขายรวมของ EV และ PHEV ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทั้งรุ่นราคาจับต้องได้ไปจนถึงระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ผู้บริโภคในวงกว้าง
ปัจจุบัน BYD ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปยังกว่า 70 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ครอบคลุมทั้งยุโรป อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และอาเซียน หลายประเทศเริ่มนำ BYD มาใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถบัสไฟฟ้า และยังได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอย่างรวดเร็ว
BYD ได้จับมือกับ Daimler AG เพื่อก่อตั้งแบรนด์ Denza เจาะตลาดรถไฟฟ้าพรีเมียมในจีน อีกทั้งยังมีความร่วมมือกับ Toyota ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี EV และแบตเตอรี่ รวมถึงการเป็นซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อื่น ๆ ทั่วโลก ยิ่งตอกย้ำบทบาทของ BYD ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า
BYD หรือ Build Your Dreams เป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1995 โดยเริ่มต้นจากธุรกิจการผลิต แบตเตอรี่มือถือ และสามารถเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของโลก ต่อมาในปี 2002 บริษัทได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเต็มตัว ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Tsinchuan Automobile Co., Ltd และก่อตั้ง BYD Auto ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารถยนต์ภายใต้แบรนด์ของตนเอง
ปี 2008 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ เมื่อ BYD เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลกที่ผลิตเชิงพาณิชย์ คือ BYD F3DM ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และสร้างความสนใจอย่างกว้างขวางในระดับสากล จนนักลงทุนชื่อดังอย่าง Warren Buffet ผ่าน Berkshire Hathaway ตัดสินใจเข้าลงทุนในบริษัท นับเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ BYD ก้าวสู่การยอมรับระดับโลก หลังจากนั้น BYD ได้พัฒนารถรุ่นสำคัญอย่าง BYD Qin รวมถึงขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ EV ครอบคลุมทั้ง SUV ซีดาน MPV และรถบัสไฟฟ้า
ปัจจุบัน BYD ได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก มียอดขายสูงสุดในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการผลิตรถ EV หลากหลายรุ่นในราคาที่เข้าถึงง่าย ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เช่น แบตเตอรี่ Blade Battery ที่ปลอดภัยและทนทาน รวมถึงโซลูชันด้านพลังงานสะอาดที่ครบวงจร ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ BYD ในการขับเคลื่อนโลกไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและปลอดมลพิษ
บริษัท BYD ก่อตั้งบริษัทด้วยเงินทุนเพียง $0.3 ล้านและพนักงาน 20 คน …
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2000 BYD กลายเป็นซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ Li-ion ของจีนรายแรกให้กับ Motorola …
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2003 BYD เข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์โดยเข้าซื้อกิจการ Qin Chuan Auto Company ของซีอานในเดือนกันยายน ค.ศ. 2005 BYD เปิดตัว F3 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของบริษัท …
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 วอร์เรน บัฟเฟตต์เข้าซื้อหุ้นของ BYD ในเดือนธันวาคม BYD ได้เปิดตัว F3DM ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบสองโหมดคันแรกของโลก …
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2011 BYD Co., Ltd จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (002594.SZ) ในเดือนตุลาคม สำนักงานใหญ่ในอเมริกาเหนือของ BYD เปิดทำการในลอสแองเจลิส …
…
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 องค์การสหประชาชาติได้มอบรางวัลพิเศษให้แก่ BYD ในโครงการ “Powering the Future We Want” …
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 BYD เปิดตัวศูนย์การออกแบบระดับโลก …
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020 BYD เปิดตัว Flagship sedan รุ่นใหม่ “ฮัน” ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก Blade Battery ที่ปฏิวัติวงการแบตเตอรี่ใหม่ …
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 BYD เปิดตัวแพลตฟอร์ม Super Hybrid DM-i PHEV ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในเดือนพฤษภาคม BYD กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในจีนที่มียอดขายรถยนต์พลังงานสะอาดมากกว่า 1,000,000 คัน …
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2022 BYD ประกาศยุติการผลิตรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล …
BYD เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังในช่วงปี ค.ศ.2022–2023 ภายใต้การดูแลของ REVER Automotive โดยเปิดตัว BYD ATTO 3 ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภคไทย ด้วยดีไซน์ทันสมัย สมรรถนะคุ้มค่า และราคาที่เข้าถึงได้
REVER Automotive มีแผนเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ใช้ EV ในไทยอย่างครอบคลุม ทั้งด้านการขาย การทดลองขับ บริการหลังการขาย และการซ่อมบำรุงโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ
จุดแข็ง | รายละเอียด |
---|---|
ต้นทุนการผลิตต่ำ | ด้วยสายการผลิตครบวงจร (Vertical Integration) ทำให้ BYD ควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
นวัตกรรมแบตเตอรี่ล้ำสมัย | เช่น Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูง ทนทาน และอายุการใช้งานยาวนาน |
โมเดลหลากหลาย | ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่รุ่นประหยัดไปจนถึงพรีเมียม |
ขยายตลาดรวดเร็ว | มีฐานการผลิตในหลายประเทศ พร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) กระจายทั่วโลก |
BYD ยังคงเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในประเทศจีนเกือบ 29% (ข้อมูลปี 2025) และเป็นแบรนด์ EV ที่มียอดขายสูงสุด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถโดยสารไฟฟ้า และรถบรรทุกพลังงานสะอาด
นอกจากตลาดจีนแล้ว BYD ยังขยายสู่เวทีโลกอย่างจริงจัง ทั้งยุโรป ไทย แอฟริกา อเมริกาใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงการตั้งโรงงานประกอบในโมร็อกโกเพื่อรองรับการส่งออกไปยุโรป และมีแผนสร้างฐานการผลิตเพิ่มเติมในหลายประเทศ เพื่อกระจายศักยภาพการผลิตและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านซัพพลายเชน
BYD ไม่ได้หยุดอยู่เพียงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตด้วยการพัฒนา
พร้อมกันนี้ BYD ยังมุ่งเน้นการสร้างระบบพลังงานสะอาดแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ การกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ไปจนถึงการนำไปใช้ในระบบขนส่ง ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ BYD ในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BYD คือหนึ่งในผู้เล่นหลักที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอย่างแท้จริง ด้วยศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง และราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ BYD ไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด หากคุณกำลังมองหาอนาคตของการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า BYD คือชื่อที่ไม่ควรมองข้าม
อยากเป็นเจ้าของหรือสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า Denza รถยนต์ไฟฟ้าหรูที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและสมรรถนะขั้นสุด ติดต่อ Denza BD Ultimate ได้ทุกสาขาพร้อมทีมงานให้คำปรึกษาและบริการครบวงจร