เครื่องชาร์จหรือตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร? ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเลือกใช้งาน

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเป็นที่นิยม เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ตู้ชาร์จ EV เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ใช้งานรถไฟฟ้า หากคุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องชาร์จ EV ว่าคืออะไร? มีกี่ประเภท? และควรเลือกใช้งานอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
หัวข้อ
เครื่องชาร์จหรือตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร?
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) หรือ ตู้ชาร์จรถไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ของรถ EV เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยตู้ชาร์จ EV มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าและความเร็วในการชาร์จ
ประเภทของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีหลากหลายประเภท โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. เครื่องชาร์จแบบพกพา (Portable Charger)
- เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สามารถเสียบกับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป (AC 220V)
- ใช้งานสะดวก พกพาไปชาร์จได้ทุกที่
- ใช้เวลาชาร์จนานกว่าประเภทอื่น ๆ (อาจใช้เวลาประมาณ 8-12 ชั่วโมง)
2. ตู้ชาร์จแบบติดตั้งที่บ้าน (Home Charger หรือ Wallbox)
- เป็นเครื่องชาร์จที่มีระบบไฟ AC แต่ให้กำลังไฟมากกว่าปลั๊กไฟบ้านทั่วไป (3.6 kW – 22 kW)
- ติดตั้งกับผนังหรือเสาชาร์จเพื่อความปลอดภัย
- ชาร์จเร็วกว่าเครื่องชาร์จพกพา (ใช้เวลาประมาณ 4-8 ชั่วโมง)
3. ตู้ชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charger)
- เป็นตู้ชาร์จที่ใช้ไฟ DC โดยตรง ทำให้สามารถชาร์จได้เร็วกว่าแบบ AC
- กำลังไฟสูง (ตั้งแต่ 50 kW – 350 kW ขึ้นไป)
- ชาร์จรถ EV ได้ในเวลาเพียง 30 นาที – 1 ชั่วโมง
- เหมาะสำหรับสถานีชาร์จสาธารณะ หรือลานจอดรถเชิงพาณิชย์
ความแตกต่างระหว่างการชาร์จแบบ AC และ DC
ประเภท | AC (ไฟฟ้ากระแสสลับ) | DC (ไฟฟ้ากระแสตรง) |
---|---|---|
ประเภทเครื่องชาร์จ | เครื่องชาร์จพกพา, Wallbox | DC Fast Charger |
แหล่งพลังงาน | ปลั๊กไฟบ้าน, ไฟฟ้าในอาคาร | สถานีชาร์จเฉพาะทาง |
ความเร็วในการชาร์จ | 4 – 12 ชั่วโมง | 30 นาที – 1 ชั่วโมง |
เหมาะสำหรับ | ใช้ที่บ้าน | ใช้ตามสถานีชาร์จสาธารณะ |
วิธีเลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะกับคุณ
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. กำลังไฟฟ้า (kW) ที่เหมาะสม
- หากต้องการชาร์จที่บ้าน เครื่องชาร์จแบบ Wallbox กำลังไฟ 7.4 kW – 22 kW อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
- หากต้องการชาร์จเร็วขึ้น แนะนำให้ใช้ DC Fast Charger (50 kW ขึ้นไป)
2. มาตรฐานหัวชาร์จ
- หัวชาร์จของรถ EV แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกัน ควรตรวจสอบว่ารถของคุณรองรับหัวชาร์จประเภทใด เช่น
- Type 1 (SAE J1772) – นิยมใช้ในสหรัฐฯ และบางประเทศ
- Type 2 (Mennekes) – มาตรฐานยุโรปและเอเชีย
- CCS (Combined Charging System) – รองรับทั้ง AC และ DC
- CHAdeMO – นิยมใช้กับรถ EV ของญี่ปุ่น เช่น Nissan Leaf
3. ฟีเจอร์เสริมที่ควรมี
- ระบบควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน
- ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม
- ระบบป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินและความร้อนสูงเกินไป
4. งบประมาณ
- เครื่องชาร์จพกพา : เริ่มต้นประมาณ 5,000 – 20,000 บาท
- เครื่องชาร์จแบบติดตั้งที่บ้าน : 20,000 – 50,000 บาท
- เครื่องชาร์จเร็ว DC : หลักแสน – หลักล้านบาท (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟ)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
1. สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากปลั๊กไฟบ้านได้หรือไม่?
- ได้ แต่จะใช้เวลานานกว่า และอาจต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าให้รองรับกำลังไฟของรถ EV
2. ตู้ชาร์จรถ EV ใช้ไฟฟ้าเดือนละเท่าไร?
- ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ขับขี่ เช่น หากใช้รถ EV ขับประมาณ 1,500 กม./เดือน อาจใช้ไฟฟ้าประมาณ 200-300 kWh หรือคิดเป็นค่าไฟประมาณ 600-1,200 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่)
3. ตู้ชาร์จไฟฟ้าต้องมีการบำรุงรักษาหรือไม่?
- ควรตรวจสอบเป็นประจำ เช่น สายชาร์จ, หัวชาร์จ และซอฟต์แวร์เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
เครื่องชาร์จหรือตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การใช้งานรถ EV สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเลือกเครื่องชาร์จที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงประเภทของเครื่อง, กำลังไฟ, ความเร็วในการชาร์จ และฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า การมีเครื่องชาร์จที่บ้าน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกให้กับคุณในระยะยาว ดังนั้น เลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณเพื่อประสบการณ์การใช้รถ EV ที่ดีที่สุด!
ติดต่อเรา
- สถานที่
- สาขาสงขลา : DENZA BD ULTIMATE SONGKHLA (โชว์รูมเดนซ่า บีดี อัลติเมท สงขลา)
- สาขาภูเก็ต : 99/99 หมู่ที่ 5 อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- Facebook : Denza BD Ultimate
- LINE : Denza BD Ultimate
- ทดลองขับ : คลิกเลย!