ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า คำนวณต้นทุนและวิธีประหยัดพลังงาน

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยลดการปล่อยมลพิษและประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อวางแผนการใช้งานให้คุ้มค่าที่สุด ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมแนะนำวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
หัวข้อ
ประเภทการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่และรูปแบบของการชาร์จ ดังนี้
- การชาร์จที่บ้าน (Home Charging)
- เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดและสะดวกสบายที่สุด
- ค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4-6 บาทต่อหน่วย (kWh)
- ตัวอย่างค่าใช้จ่าย:
- รถยนต์ไฟฟ้าขนาดแบตเตอรี่ 50 kWh
- ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย 5 บาท
- ค่าชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง = 50 x 5 = 250 บาท
- การชาร์จที่สถานีชาร์จสาธารณะ (Public Charging)
- มีทั้งแบบ AC (Normal Charge) และ DC (Fast Charge)
- ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันตามผู้ให้บริการ โดยปกติจะอยู่ที่:
- AC Charging: 7-9 บาทต่อหน่วย (kWh)
- DC Fast Charging: 8-12 บาทต่อหน่วย (kWh)
- ตัวอย่างค่าใช้จ่าย:
- ชาร์จที่สถานี PTT EV Station DC Fast Charge 50 kW เป็นเวลา 30 นาที
- ค่าใช้จ่ายประมาณ 400-600 บาทต่อการชาร์จเต็ม
- การชาร์จตามสถานที่ทำงานและห้างสรรพสินค้า
- บางสถานที่อาจให้บริการชาร์จฟรี หรือคิดค่าใช้จ่ายในอัตราที่ต่ำกว่าสถานีสาธารณะ
- ส่วนใหญ่ใช้ระบบ AC Charging และอาจมีระยะเวลาการชาร์จที่นานขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
- ขนาดความจุของแบตเตอรี่ (Battery Capacity)
- ยิ่งแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการชาร์จก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
- รูปแบบการขับขี่
- การขับขี่ที่เน้นความเร็วสูง หรือมีการเร่งเครื่องบ่อย ๆ จะทำให้พลังงานหมดเร็วขึ้น ส่งผลต่อความถี่ในการชาร์จ
- ช่วงเวลาการชาร์จ
- ในประเทศไทย มีอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาต่าง ๆ (TOU – Time of Use) ได้แก่:
- ช่วง On-Peak (10:00-22:00 น.) ราคาแพงกว่า
- ช่วง Off-Peak (22:00-10:00 น.) ราคาถูกกว่า
- ในประเทศไทย มีอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาต่าง ๆ (TOU – Time of Use) ได้แก่:
ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
สมมติว่าคุณมีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ขนาด 60 kWh และต้องการชาร์จเต็ม 100% ที่บ้านโดยมีค่าไฟฟ้า 5 บาทต่อหน่วย คำนวณได้ดังนี้
- ปริมาณพลังงานที่ต้องใช้ = 60 kWh
- ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย = 5 บาท
- ค่าใช้จ่าย = 60 x 5 = 300 บาทต่อการชาร์จเต็ม
หากขับขี่ได้ระยะทาง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรจะเท่ากับ 300 ÷ 400 = 0.75 บาท/กิโลเมตร
วิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
- ชาร์จในช่วงเวลาที่ค่าไฟถูก (Off-Peak Hours)
- การชาร์จในช่วงกลางคืนจะช่วยลดต้นทุนได้มาก
- ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
- การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- เลือกใช้สถานีชาร์จที่มีโปรโมชั่น
- ตรวจสอบโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการ เช่น การชาร์จฟรี หรือส่วนลดค่าบริการ
- ปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่
- การขับขี่อย่างประหยัดพลังงาน เช่น การลดการเร่งความเร็ว และใช้โหมด Eco ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และลดต้นทุนการชาร์จ
สรุป
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเภทการชาร์จ ขนาดแบตเตอรี่ และพฤติกรรมการขับขี่ การเลือกชาร์จในเวลาที่เหมาะสมและใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ควรศึกษารายละเอียดการชาร์จเพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
ติดต่อเรา
- สถานที่
- สาขาสงขลา : DENZA BD ULTIMATE SONGKHLA (โชว์รูมเดนซ่า บีดี อัลติเมท สงขลา)
- สาขาภูเก็ต : 99/99 หมู่ที่ 5 อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- Facebook : Denza BD Ultimate
- LINE : Denza BD Ultimate
- ทดลองขับ : คลิกเลย!